✤✤✤ USCIS Office ที่กรุงเทพฯ ปิดสาขาไปแล้วตั้งแต่เมื่อสิ้นปี 2019 ดังนั้นการขอวีซ่าแบบ DCF จะทำโดยตรงจากไทยไม่ได้แล้ว ต้องเริ่มยื่นเรื่องที่อเมริกาเท่านั้น อ่านขั้นตอนของเราเพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมเอกสารเท่านั้นพอนะคะ ✤✤✤
ขั้นตอนแรกของการขอวีซ่าแต่งงานประเภท Direct Consular Filing คือการยื่นเอกสารหลักคือ I-130 กับสำนักงาน USCIS Bangkok ขั้นตอนนี้ต้องให้คู่สมรสที่เป็น US citizen เป็นคนยื่น และ US citizen จะต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง รวมถึงพำนักอยู่ที่ไทยมานานกว่า 6 เดือนด้วยวีซ่าประเภท non-immigrant หากเป็นวีซ่าท่องเที่ยวต้องมีเหตุผลหนักพอที่จะโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องค่ะ
แนะนำให้อ่านก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียม ทุกอย่างเป็นสำเนา ไม่ต้องเซ็นรับรอง
หมวด US citizen
- ฟอร์ม I-130 (ดาวน์โหลด)
- พาสปอร์ต หน้าที่มีข้อมูลและรูป พร้อมสำเนาหน้าที่มีวีซ่าไทย
- สูติบัตร
- ใบหย่า ถ้ามี
- สัญญาเช่าห้อง หรือเอกสารแสดงที่อยู่เพื่อยืนยันว่าพำนักอยู่ไทยมานานกว่า 6 เดือน
- รูป 2×2 นิ้ว 2 รูป เขียนชื่อนามสกุลด้วยดินสอด้านหลัง
หมวดคู่สมรส (foreign spouse)
- ฟอร์ม I-130A (ดาวน์โหลด)
- ฟอร์ม G-1145 (ดาวน์โหลด)
- พาสปอร์ต หน้าที่มีข้อมูลและรูป
- สูติบัตร พร้อมใบแปลรับรองโดยบริษัทแปล
- ใบหย่า ถ้ามี
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล ถ้ามี
- ทะเบียนบ้าน พร้อมใบแปลรับรองโดยบริษัทแปล
- รูป 2×2 นิ้ว 2 รูป เขียนชื่อนามสกุลด้วยดินสอด้านหลัง
หมวดแสดงความสัมพันธ์ (bona fide)
ในส่วนนี้คือเอกสารสนับสนุนความสัมพันธ์ (bona fide) เอกสารส่วนนี้สำคัญมากเพราะเราจะต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นของจริง ไม่ได้แต่งกันหลอก ๆ เพื่อขอกรีนการ์ด เราแนะนำว่าให้ front load ไปให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะได้ไม่ต้องแบกไปหนักในวันสัมภาษณ์ เอกสารส่วนนี้ทาง USCIS จะส่งต่อให้สถานทูตเองเลย
ตัวอย่าง:
- ทะเบียนสมรส พร้อมใบรับรอง หากเป็นภาษาไทย ต้องแปลพร้อมรับรองโดยบริษัทแปล
- รูปที่ถ่ายด้วยกัน
- ประวัติการแช็ท อีเมล์ Skype ฯลฯ
- เอกสารการรับโอนเงิน
- ตั๋วเครื่องบินที่ไปเที่ยวด้วยกัน
- บัญชีเงินฝากร่วมกัน
- สูติบัตรบุตร (เป็นเอกสารชั้นดีที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์)
ประวัติการแช็ทและอีเมล์ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องเย็บเข้าเล่ม ใช้คลิปแยกเป็นหมวดหมู่ก็เพียงพอแล้ว จะปริ๊นท์เป็นรายวัน หรือเลือกเฉพาะบทสนทนาที่สำคัญ ๆ ก็ได้
วิธีการและประสบการณ์ของเรา
การยื่นเรื่อง I-130 petition
Ingredients
- 1. เอกสารหมวด US citizen
- 2. เอกสารหมวดคู่สมรส (foreign spouse)
- 3. เอกสารหมวดความสัมพันธ์ (bona fide)
- 4. บัตรเครดิตหรือเงินสดสกุลไทยหรือ US ดอลล่าร์ จำนวน $535
Instructions
ยื่นเอกสารทั้งหมด จัดแยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจนให้แก่เจ้าหน้าที่ พยายามไปให้เช้าที่สุดค่ะ เวลาทำการ USCIS คือ 08:30-12:00 น. วันที่เราไป เราไปถึง 08:30 น. พอดีแต่ก็มีคนมาก่อนเราแล้วถึง 4 คิว กว่าจะถึงคิวเรายื่นเอกสารก็ 11:00 น. เข้าไปแล้ว เจ้าหน้าที่พูดไทยได้ อัธยาศัยดี พอเจ้าหน้าที่รับเอกสารเสร็จก็จะปิดหน้าต่างแล้วบอกให้เรานั่งรอ
ซักครึ่งชั่วโมงผ่านไปเจ้าหน้าที่จะเปิดหน้าต่างอีกรอบเพื่อบอกว่าเอกสารเราผ่านหรือไม่ ของเรามีทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่ต้องการ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขออะไรเพิ่มอีก เลยให้เอกสารเรามา 1 แผ่นแล้วให้วิ่งไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการยื่น I-130 เป็นจำนวน $535 ที่สถานทูตอเมริกาฝั่งตรงข้าม ทางสถานทูตอนุญาตให้ US citizen เข้าได้เท่านั้น แต่หากใช้บัตรเครดิตของ foreign spouse จ่าย ตัว foreign spouse สามารถขอเข้าไปด้วยได้ เพราะต้องไปเซ็นสลิปใบเสร็จ
จากนั้นให้เอาใบเสร็จรับเงินกลับมายื่นให้เจ้าหน้าที่ที่ USCIS เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอนนี้ ก่อนจากกันเจ้าหน้าที่บอกว่าจะติดต่อกลับภายใน 90 วันแต่ในความเป็นจริงเร็วกว่านั้นมากค่ะ
หลังจากนี้ก็รอจดหมายตอบรับ Approval Notice จากทาง USCIS ระยะเวลาการรอขึ้นอยู่กับว่าอยู่จังหวัดไหน ยิ่งไกลกรุงเทพฯ ออกไปก็จะยิ่งได้ช้า เพราะเขาจะส่งแบบธรรมดาสุด ๆ เราอยู่จังหวัดแถบภาคตะวันออกซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก ใช้เวลา 18 วันค่ะ
Notes
วิธีการเดินทางไป USCIS Bangkok
ขึ้น BTS ลงสถานีเพลินจิต ออกประตู 2 แล้วเดินไปเรื่อย ๆ ตามถนนวิทยุ ตึกสินธร 2 จะอยู่ขวามือ ตรงข้ามกับตึกสถานทูตอเมริกา กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 15 ออกจากลิฟท์ปิดมือถือและฝากของไว้กับ รปภ ก่อนเข้า สำนักงาน CIS จะอยู่ขวามือค่ะ เป็นห้องเล็ก ๆ มีโซฟาให้นั่งรอ
ติดต่อ USCIS Bangkok
ที่อยู่: ตึกสินธร 2 ชั้น 15 เลขที่ 130-132 ถ. วิทยุ เขตลุมพินี กรุงเทพฯ 10330
เวลาทำการ: 8:30-12:00 น. (จ-ศ) ยกเว้นวันหยุดราชการไทยและอเมริกา
โทร: 02-205-5352
อีเมล์: BKKCIS.inquiries@uscis.dhs.gov
เว็บไซต์: USCIS Bangkok
This post is also available in: 
English
No Comments